อย่ามองข้าม! ปัญหาการมีบุตรยากไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว ในออสเตรเลีย 30% ของคู่รักที่มีบุตรยากมีสาเหตุมาจากฝ่ายชาย และอีก 30% เกิดจากทั้งสองฝ่าย

ภาวะเจริญพันธุ์และภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย การเปลี่ยนแปลงในการตรวจประเมินภาวะเจริญพันธุ์

ในอดีต การประเมินภาวะเจริญพันธุ์มักมุ่งเน้นไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก และมักเกี่ยวข้องกับการทดสอบที่ต้องเจาะหรือสอดใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกาย แต่ปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ที่ Genea และคลินิกอื่นๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการประเมินทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เข้าใจสุขภาพสืบพันธุ์ของทั้งคู่ได้อย่างครอบคลุม และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด

สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย

  • ปัญหาเกี่ยวกับสเปิร์ม: พบได้บ่อยที่สุดในผู้ชายที่มีบุตรยาก ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ชายที่มีบุตรยากมีปัญหานี้ เช่น ปริมาณหรือคุณภาพสเปิร์มต่ำ ความสามารถในการเคลื่อนที่ของสเปิร์มลดลง หรือรูปร่างของสเปิร์มผิดปกติ
  • การอุดตันหรือความเสียหาย: ภาวะที่ท่อต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์เพศชายอาจเกิดการอุดตันหรือความเสียหายที่ป้องกันไม่ให้สเปิร์มไปถึงไข่ได้
  • โรคประจำตัวหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน: โรคบางอย่างหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมนอาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ ตัวอย่างเช่น

ความไม่สมดุลของฮอร์โมน:

- ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism): เกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการผลิตสเปิร์มและรักษาสมรรถภาพทางเพศ

- ภาวะต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ (Pituitary Disorders): ต่อมใต้สมองทำหน้าที่ควบคุมการผลิตฮอร์โมนต่างๆ รวมถึงฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของอัณฑะ หากต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ ก็อาจส่งผลต่อการผลิตสเปิร์มได้

- ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ (Thyroid Disorders): ทั้งภาวะไทรอยด์เป็นพิษและไทรอยด์ทำงานต่ำ สามารถส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนและลดคุณภาพของสเปิร์มได้

โรคประจำตัวอื่นๆ:

- โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานอาจทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และส่งผลต่อคุณภาพของสเปิร์ม

- โรคอ้วน: ภาวะอ้วนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง และเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งส่งผลเสียต่อการผลิตสเปิร์ม

- โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์: โรคบางชนิด เช่น หนองใน หรือ Chlamydia อาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นแผลเป็นในท่อต่างๆ ของระบบสืบพันธุ์ ทำให้สเปิร์มเดินทางลำบาก

  • ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อม การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และความเครียด

อายุ: ศัตรูตัวร้ายของภาวะเจริญพันธุ์

เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายจะเริ่มลดลงอย่างมาก เหลือเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับตอนอายุ 25 ปี และจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังอายุ 55 ปี ดังนั้น อายุจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา

ตรวจวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย

หากคุณกังวลเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ ควรเข้ารับการตรวจเช็คอย่างละเอียด Genea มีบริการตรวจสุขภาพครบวงจร ดังนี้:

  • การตรวจร่างกายและซักประวัติ เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและปัญหาสุขภาพที่อาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์
  • การตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อตรวจหาปัญหาสุขภาพทั่วไปและปัญหาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาวะเจริญพันธุ์
  • การตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ เพื่อประเมินจำนวน การเคลื่อนที่ และรูปร่างของสเปิร์ม
  • การตรวจวินิจฉัยขั้นสูง เช่น Sperm Chromatin Integrity Test (SCIT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของ DNA ในสเปิร์ม
  • การตรวจเพิ่มเติม อาจรวมถึงการตรวจพันธุกรรม การตรวจภาพ เช่น อัลตราซาวนด์หรือ MRI และขั้นตอนเฉพาะทางอื่นๆ ขึ้นอยู่กับผลการตรวจเบื้องต้น

คุณยังมีคำถามอยู่ใช่หรือเปล่า ?

แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตลอดเวลา เราพร้อมให้คำแนะนำและข้อมูลที่ถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย

ภาวะมีบุตรยากเกิดจากผู้ชายบ่อยแค่ไหน?
คู่รักที่มีบุตรยากในออสเตรเลีย 30% มีสาเหตุมาจากฝ่ายชาย และอีก 30% เกิดจากทั้งสองฝ่าย รวมแล้วปัญหาจากฝ่ายชายมีส่วนถึง 60% เลยทีเดียว
ผู้ชายที่มีระดับสเปิร์มต่ำมีเยอะไหม?
ในออสเตรเลีย ผู้ชาย 1 ใน 20 คน มีระดับสเปิร์มต่ำ และ 1 ใน 100 คนไม่มีสเปิร์มเลย นี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลและไม่ควรมองข้าม
สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในผู้ชายมีอะไรบ้าง?
มีหลายปัจจัยที่ทำให้มีบุตรยาก เช่น ปริมาณและคุณภาพของสเปิร์มต่ำ สเปิร์มเดินทางไปไม่ถึงไข่ โรคประจำตัวหรือฮอร์โมนผิดปกติ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อายุ หรือแม้แต่ความเสียหายของ DNA ในสเปิร์ม
อายุมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายอย่างไร?
ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป โดยจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับตอนอายุ 25 ปี และลดลงอย่างรวดเร็วเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป
มีวิธีประเมินภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายอย่างไร?
การประเมินภาวะเจริญพันธุ์ในผู้ชายสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือดและปัสสาวะ ตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ รวมถึงการตรวจ Sperm Chromatin Integrity Test (SCIT) เพื่อดูความสมบูรณ์ของ DNA ในสเปิร์ม อาจมีการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ตรวจพันธุกรรม อัลตราซาวด์ หรือ MRI

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์

หากคุณพยายามมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติแล้วไม่สำเร็จ ลองมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา คำแนะนำผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่พยายามมา 1 ปี หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ที่พยายามมา 6 เดือน โดยจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา เช่น การทำ ICSI หรือการแช่แข็งไข่

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy และ Cookies Policy
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ