ในอดีต การประเมินภาวะเจริญพันธุ์มักมุ่งเน้นไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก และมักเกี่ยวข้องกับการทดสอบที่ต้องเจาะหรือสอดใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกาย แต่ปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ที่ Genea และคลินิกอื่นๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการประเมินทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เข้าใจสุขภาพสืบพันธุ์ของทั้งคู่ได้อย่างครอบคลุม และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด
- ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism): เกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการผลิตสเปิร์มและรักษาสมรรถภาพทางเพศ
- ภาวะต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ (Pituitary Disorders): ต่อมใต้สมองทำหน้าที่ควบคุมการผลิตฮอร์โมนต่างๆ รวมถึงฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของอัณฑะ หากต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ ก็อาจส่งผลต่อการผลิตสเปิร์มได้
- ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ (Thyroid Disorders): ทั้งภาวะไทรอยด์เป็นพิษและไทรอยด์ทำงานต่ำ สามารถส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนและลดคุณภาพของสเปิร์มได้
- โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานอาจทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และส่งผลต่อคุณภาพของสเปิร์ม
- โรคอ้วน: ภาวะอ้วนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง และเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งส่งผลเสียต่อการผลิตสเปิร์ม
- โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์: โรคบางชนิด เช่น หนองใน หรือ Chlamydia อาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นแผลเป็นในท่อต่างๆ ของระบบสืบพันธุ์ ทำให้สเปิร์มเดินทางลำบาก
เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายจะเริ่มลดลงอย่างมาก เหลือเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับตอนอายุ 25 ปี และจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังอายุ 55 ปี ดังนั้น อายุจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
หากคุณกังวลเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ ควรเข้ารับการตรวจเช็คอย่างละเอียด Genea มีบริการตรวจสุขภาพครบวงจร ดังนี้:
หากคุณพยายามมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติแล้วไม่สำเร็จ ลองมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา คำแนะนำผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่พยายามมา 1 ปี หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ที่พยายามมา 6 เดือน โดยจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา เช่น การทำ ICSI หรือการแช่แข็งไข่
Services